ใครคืออะฮฺลุลบัยตฺ วงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม?

ใครคืออะฮฺลุลบัยตฺ วงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม?

] ไทย – Thai – تايلاندي [

มุหัมมัด ศอลิหฺ อัล-มุนัจญิด

แปลโดย : อิสมาอีล บิน กอซิม

ตรวจทานโดย : ซุฟอัม อุษมาน

ที่มา : เว็บไซต์ islamqa.com

2013 - 1434

من هم آل البيت ؟

« باللغة التايلاندية »

محمد صالح المنجد

ترجمة: إسماعيل بن قاسم

مراجعة: صافي عثمان

المصدر: موقع الإسلام سؤال وجواب

2013 - 1434

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

ใครคืออะฮฺลุลบัยตฺ วงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม?

คำถาม ใครคืออะฮฺลุลบัยตฺ(วงศ์วาน)ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ? ซึ่งในหะดีษอัษ-ษะเกาะลัยนฺระบุว่าแท้จริงท่านหญิงฟาติมะฮฺ ท่านอะลีย์ ท่านหะสัน และท่านหุเสน คืออะฮฺลุลบัยตฺ

คำตอบ

มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺ

บรรดานักวิชาการ - ขออัลลอฮฺได้โปรดเมตตาต่อพวกเขา – ได้กล่าวถึงการจำกัดอะฮฺลุลบัยตฺวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม มีหลายๆ ทัศนะด้วยกัน

บางทัศนะกล่าวว่า แท้จริงวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็คือ บรรดาภรรยาของท่าน ลูกหลานของท่าน และตระกูลบะนีฮาชิม และตระกูลบะนี อับดุลมุฏเฏาะลิบ และทาสของพวกเขา

นักวิชาการบางท่านมีความเห็นว่า แท้จริงบรรดาภรรยาของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ได้เข้าอยู่ในวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

บางคนมีความเห็นว่า วงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม คือ ชาวกุเรช

บางคนมีความเห็นว่า วงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม คือบรรดาผู้ที่มีความยำเกรงจากประชาชาติของท่าน

บางคนกล่าวว่าวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม คือประชาชาติของท่านทั้งหมด

สำหรับบรรดาภรรยาของท่านนบีนั้น ตามทัศนะที่มีน้ำหนักที่สุดถือว่าเข้ารวมอยู่ในวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วย เนื่องจากคำดำรัสของอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่ง หลังจากที่พระองค์ได้มีคำสั่งให้บรรดาภรรยาของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ให้คลุมฮิญาบ พระองค์ก็ได้ตรัสว่า

﴿إِنَّمَا يُرِيدُ ٱللَّهُ لِيُذۡهِبَ عَنكُمُ ٱلرِّجۡسَ أَهۡلَ ٱلۡبَيۡتِ وَيُطَهِّرَكُمۡ تَطۡهِيرٗا ٣٣ ﴾ [الأحزاب: ٣٣]

ความว่า "แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺประสงค์ที่จะขจัดความโสโครกออกไปจากพวกเจ้า โอ้อะฮฺลุลบัยตฺ และเพื่อชำระให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์" (อัล-อะห์ซาบ 33)

และคำพูดของมะลาอิกะฮฺที่ได้กล่าวแก่ซาเราะฮฺภรรยาของท่านนบี ฮิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม ซึ่งมีระบุในอัลกุรอานว่า

﴿ قَالُوٓاْ أَتَعۡجَبِينَ مِنۡ أَمۡرِ ٱللَّهِۖ رَحۡمَتُ ٱللَّهِ وَبَرَكَٰتُهُۥ عَلَيۡكُمۡ أَهۡلَ ٱلۡبَيۡتِۚ﴾ [هود: ٧٣]

ความว่า "พวกเขากล่าวว่า นางจะแปลกใจกับกิจการของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ นี่คือความเมตตาของอัลลอฮฺและความจำเริญของพระองค์แด่พวกท่าน โอ้ อะฮฺลุลบัยตฺ(ครอบครัวของอิบรอฮีม)"

ในส่วนของบะนี มุฏเฏาะลิบ นั้น มีสายรายงานกล่าวถึงทัศนะของอิมามอะห์มัดว่าแท้จริงวงศ์วานของมุฏเฏาะลิบก็เป็นหนึ่งในวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เช่นกัน ซึ่งเป็นทัศนะของอิมามอัช-ชาฟิอีย์ด้วย แต่ท่านอิมามอบู หะนีฟะฮฺ และอิมามมาลิก มีความเห็นว่า บะนี อัล-มุฏเฏาะลิบไม่ได้เข้ารวมอยู่ในวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทัศนะหลังนี้ยังได้รับรายงานว่าเป็นทัศนะหนึ่งของอิมามอะห์มัดด้วย สำหรับทัศนะที่มีน้ำหนักมากที่สุดในประเด็นนี้ก็คือ ตระกูลของอับดุลมุฏเฏาะลิบนั้นเป็นหนึ่งในวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม หลักฐานในเรื่องนี้ก็คือ

ما جاء عن جبير بن مطعم رضي الله عنه أنه قال : " مَشَيْتُ أَنَا وَعُثْمَانُ بْنُ عَفَّانَ إِلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُلْنَا : يَا رَسُولَ اللَّهِ أَعْطَيْتَ بَنِي الْمُطَّلِبِ وَتَرَكْتَنَا وَنَحْنُ وَهُمْ مِنْكَ بِمَنْزِلَةٍ وَاحِدَةٍ ؟! فَقَالَ رَسُولُ اللهُ صَلّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلّمَ : «إِنِّمَا بَنُو الْمُطَّلِبِ وَبَنُو هَاشِمٍ شَيْءٌ وَاحِدٌ» [رواه البخاري برقم 2907 ، والنسائي برقم 4067 وغيرهما] .

รายงานจากท่าน ญุบัยรฺ บิน มุฏอิม เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ฉันได้เดินไปพร้อมกับท่านอุษมาน บิน อัฟฟาน ไปหาท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พวกเราได้กล่าวว่า โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ท่านได้ให้ตระกูลมุฏเฏาะลิบและท่านได้ละทิ้งพวกเรา ทั้งที่เรากับพวกเขา ณ ที่ท่านนั้นมันอยู่ในระดับตำแหน่งเดียวกัน ? ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "แท้จริงตระกูลมุฏเฏาะลิบและตระกูลฮาชิมนั้นคือพวกเดียวกัน(ร่วมทุกข์สุขมาด้วยกันตลอดทั้งในยุคญาฮิลียะฮฺและยุคอิสลาม)" (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ 2907 และท่านอัน-นะสาอีย์ หมายเลขหะดีษ 4067 และคนอื่นๆ จากทั้งสองนี้)

กลุ่มที่รวมอยู่ในวงศ์วานของท่านบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อีกกลุ่ม ก็คือตระกูลบะนีฮาชิม บุตร ของอับดุมะนาฟ และวงศ์วานของท่านอะลีย์ วงศ์วานของท่านอับบาส และวงศ์วานของท่านญะอฺฟัรฺ และวงศ์วานของท่านอะกีล และวงศ์วานของท่านอัล-หาริษ บิน อับดุลมุฏเฏาะลิบ

جاء ذلك فيما رواه الإمام أحمد عن زيد بن أرقم رضي الله عنه قال : قَامَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَوْمًا خَطِيبًا فِينَا بِمَاءٍ يُدْعَى خُمًّا بَيْنَ مَكَّةَ وَالْمَدِينَةِ ؛ فَحَمِدَ اللَّهَ تَعَالَى وَأَثْنَى عَلَيْهِ وَوَعَظَ وَذَكَّرَ ثُمَّ قَالَ : «أَمَّا بَعْدُ أَلَا يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ يُوشِكُ أَنْ يَأْتِيَنِي رَسُولُ رَبِّي عَزَّ وَجَلَّ فَأُجِيبُ ؛ وَإِنِّي تَارِكٌ فِيكُمْ ثَقَلَيْنِ أَوَّلُهُمَا كِتَابُ اللَّهِ عَزَّ وَجَلَّ فِيهِ الْهُدَى وَالنُّورُ فَخُذُوا بِكِتَابِ اللَّهِ تَعَالَى وَاسْتَمْسِكُوا بِهِ - فَحَثَّ عَلَى كِتَابِ اللَّهِ وَرَغَّبَ فِيهِ - قَالَ : وَأَهْلُ بَيْتِي أُذَكِّرُكُمْ اللَّهَ فِي أَهْلِ بَيْتِي، أُذَكِّرُكُمْ اللَّهَ فِي أَهْلِ بَيْتِي، أُذَكِّرُكُمْ اللَّهَ فِي أَهْلِ بَيْتِي» فَقَالَ لَهُ حُصَيْنٌ : وَمَنْ أَهْلُ بَيْتِهِ يَا زَيْدُ ؟ أَلَيْسَ نِسَاؤُهُ مِنْ أَهْلِ بَيْتِهِ ؟ قَالَ : إِنَّ نِسَاءَهُ مِنْ أَهْلِ بَيْتِهِ، وَلَكِنَّ أَهْلَ بَيْتِهِ مَنْ حُرِمَ الصَّدَقَةَ بَعْدَهُ . قَالَ : وَمَنْ هُمْ ؟ قَالَ : هُمْ آلُ عَلِيٍّ وَآلُ عَقِيلٍ وَآلُ جَعْفَرٍ وَآلُ عَبَّاسٍ، قَالَ : أَكُلُّ هَؤُلَاءِ حُرِمَ الصَّدَقَةَ ! قَالَ : نَعَمْ . [رواه أحمد برقم 18464].

จากท่านอิมามอะห์มัดได้รายงาน จากท่านซัยดฺ บิน อัรก็อม เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่าเราะสูลุลลอฮฺ ได้ยืนขึ้นในวันหนึ่งทำการเทศนาธรรมในแก่พวกเรา ใกล้แอ่งน้ำที่เรียกว่า คุมม์ อยู่ระหว่างมักกะฮฺและมะดีนะฮฺ โดยที่ท่านได้ทำการสรรเสริญอัลลอฮฺ ตะอาลา ท่านได้ทำการตักเตือน หลังจากนั้นท่านได้กล่าวว่า "พึงทราบเถิดโอ้ผู้คนทั้งหลาย แท้จริงฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ใกล้เข้ามาแล้วที่จะมีทูตจากพระเจ้าของฉันผู้ทรงเกียรติและสูงส่ง(หมายถึงมะลาอิกะฮฺที่จะมารับวิญญาณไป) แล้วฉันก็จะตอบรับ(เสียชีวิต) และแท้จริงฉันได้ทิ้งไว้ให้แก่ท่านซึ่งของที่หนักอึ้งสองอย่าง หนึ่งในสองที่ว่านั้น คือคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเกียติและสูงส่ง ในคัมภีร์นั้นมีทางนำ มีแสงสว่าง ดังนั้นพวกท่านจงยึดมั่นต่อคัมภีร์ของอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่ง และจงยึดมั่นต่อมัน" .. แล้วท่านได้ส่งเสริมในเรื่องของคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และท่านเราะสูลได้ส่งเสริมให้สนใจในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ท่าน ได้กล่าวต่อไปอีกว่า .. “และจงยึดมั่นในวงศ์วานของฉัน และฉันขอตักเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮฺในวงศ์วานของฉัน และฉันขอตักเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮฺในวงศ์วานของฉัน และฉันขอตักเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮฺในวงค์วานของฉัน" หุศ็อยนฺ(ผู้รายงานหะดีษจากซัยดฺ)ถามว่า ใครกันเล่าที่เป็นอะฮฺลุลบัยตฺวงศ์วานของท่านนบี ไม่ใช่ภรรยาของท่านดอกหรือที่เป็นอะฮฺลุลบัยตฺ? ซัยดฺได้กล่าวตอบว่า แท้จริงภรรยาของท่านนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวงศ์วานของท่าน และแท้จริงวงศ์วานของท่านก็คือผู้ที่ถูกห้ามรับการบริจาค(เศาะดะเกาะฮฺ)หลังจากท่านนบี หุศ็อยนฺถามไปว่า พวกเขามีใครบ้าง? ท่านซัยดฺตอบว่า พวกเขาคือ วงศ์วานของอะลีย์ วงศ์วานของอะกีล วงศ์วานของญะอฺฟัรฺ วงศ์วานของอับบาส แล้วหุศ็อยนฺก็ได้ถามอีกว่า คนเหล่านั้นทั้งหมดห้ามรับเศาะดะเกาะฮฺใช่ไหม? ท่านตอบว่าใช่แล้ว (บันทึกโดยอิหม่ามอะหมัด หมายเลขหะดีษ 18464)

สำหรับบรรดาทาสที่ได้รับการปลดปล่อย(มะวาลีย์)นั้น มีรายงานจากท่านมิฮฺรอน ซึ่งเป็นมะวาลีย์คนหนึ่งของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เขาได้กล่าวว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า

«إِنَّا آلُ مُحَمَّدٍ لَا تَحِلُّ لَنَا الصَّدَقَةُ وَمَوْلَى الْقَوْمِ مِنْهُمْ» [رواه أحمد برقم 15152]

"แท้จริงพวกเราซึ่งเป็นวงศ์วานของมุหัมมัด ไม่อนุญาตให้รับการบริจาค(เศาะดะเกาะฮฺ) และทาสที่ถูกปลดปล่อยโดยกลุ่มชนใด เขาก็คือส่วนหนึ่งจากพวกเขาด้วย" (บันทึกโดย อะห์มัด หมายเลขหะดีษ 15152)

ดังนั้นวงศ์วานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็คือ บรรดาภรรยาของท่านรวมถึงลูกหลานที่สืบทอดตระกูลมาท่านนบี ลูกหลานจากตระกูลฮาชิม ตระกูลอับดุลมุฏเฏาะลิบ และบรรดาทาสที่ได้รับการปล่อยเป็นไทโดยพวกเขา

และอัลลอฮฺ คือผู้ทรงรู้ดียิ่งกว่า

ที่มา http://islamqa.info/ar/10055

คัดลอกฉบับภาษาไทย ตรวจทาน และปรับปรุงแก้ไขจาก http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=62&id=3271