(1) โอ้เราะซูลเอ๋ย ข่าวคราวเกี่ยวกับวันกิยามะฮ์ที่มันครอบงำมนุษย์ด้วยความหวาดกลัวต่าง ๆ ของมัน ได้มายังเจ้าแล้วมิใช่หรือ?!
(2) ดังนั้น มนุษย์ในวันกิยามะฮ์จะมีทั้งบรรดาผู้ที่มีความทุกข์โศกและบรรดาผู้ที่มีความสุข แล้วใบหน้าของบรรดาผู้ที่มีความทุกข์โศกนั้นจะรู้สึกต่ำต้อยหดหู่
(3) เหน็ดเหนื่อยต้องทนระกำลำบากด้วยโซ่ตรวนที่ถูกตรึงออก และกุญแจมือที่ถูกสวมใส่ใช้อยู่
(4) ใบหน้าเหล่านั้นจะต้องเข้าไปในนรกอันร้อนรุ่ม ซึ่งจะต้องทนเผชิญกับความร้อนแรงของมัน
(5) มันจะถูกให้ดื่มจากตาน้ำที่มีความร้อนแรงยิ่ง
(6) ไม่มีอาหารอื่นใดเลยสำหรับพวกเขาที่จะใช้รับประทาน เว้นแต่อาหารที่สุดน่ารังเกียจและมีกลิ่นเหม็น ซึ่งมาจากจำพวกพืชที่มีชื่อเรียกว่า อัชชิบริก เมื่อมันแห้งก็จะกลายเป็นพิษ
(7) ผู้ที่รับประทานมันเข้าไปจะไม่อ้วน และมันก็ไม่สามารถระงับความหิวของเขาได้
(8) และใบหน้าของบรรดาผู้ที่มีความสุขในวันนั้น จะได้รับความโปรดปราน ความเปล่งปลั่ง และความปลื้มปิติ เพราะพวกเขาได้พบเจอกับความสุขสบายต่าง ๆ
(9) พึงพอใจต่อการงานที่ดีของมันที่ได้กระทำไว้ในโลกดุนยา โดยที่มันได้พบเจอผลตอบแทนของการกระทำของมันได้ถูกเก็บไว้เพิ่มเป็นทวีคูณ
(10) อยู่ในสวนสวรรค์ที่มีสถานที่และสถานะอันสูงตระหง่าน
(11) ในสวนสวรรค์นั้นจะไม่ได้ยินคำพูดที่เป็นเท็จและไร้สาระ ยิ่งกว่านั้นจะไม่ได้ยินคำพูดที่ต้องห้ามเลย
(12) ในสวนสวรรค์นี้มีตาน้ำที่ไหลริน พวกเขาจะทำให้เอ่อล้น และจะใช้สอยมันอย่างไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ
(13) ในนั้นมีเตียงที่สูงเด่น
(14) และมีแก้วน้ำที่ถูกวางไว้พร้อมสำหรับดื่มกิน
(15) และในนั้นมีหมอนอิงถูกเรียงไว้ทับซ้อนต่อ ๆ กัน
(16) และในนั้นมีพรมอย่างดีที่ถูกปูไว้ตรงนี้และตรงโน้น
(17) พวกเขามิได้พิจารณาสังเกตดูอูฐดอกหรือ ว่าอัลลอฮ์ได้ทรงสร้างมันมาและทรงให้มันอำนวยความสะดวกแก่มนุษย์อย่างไร?!
(18) และพวกเขามองไปยังท้องฟ้าบ้างหรือไม่ ว่าพระองค์ได้ทรงยกมันขึ้นอย่างไร กระทั่งมันกลายเป็นเพดานที่ถูกรักษาไว้อยู่เหนือพวกเขา โดยที่มันไม่ตกหล่นใส่พวกเขา
(19) และพวกเขามองไปยังภูเขาบ้างหรือไม่ ว่าพระองค์นั้นได้ทรงปักตั้งมันและใช้มันควบคุมการสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ไว้อย่างไร
(20) และพวกเขามองไปยังผืนแผ่นดินบ้างหรือไม่ ว่าพระองค์ได้ทรงแผ่ลาดมัน และทรงจัดเตรียมมันให้พร้อมแก่การอาศัยของมนุษย์ไว้อย่างไร
(21) ดังนั้น โอ้เราะซูลเอ๋ย เจ้าจงตักเตือนพวกเขาเหล่านั้นเถิด และข่มขู่พวกเขาด้วยการลงโทษของอัลลอฮ์ แท้จริงเจ้านั้นคือผู้ตักเตือน เจ้าจะไม่ถูกขอให้กระทำสิ่งอื่นใดนอกจากการตักเตือนพวกเขา ส่วนการบรรลุผลสำเร็จของพวกเขาในการศรัทธานั้นอยู่ในพระหัตของอัลลอฮ์ผู้เดียวเท่านั้น
(22) เจ้ามิใช่ผู้มีอำนาจเหนือพวกเขา กระทั่งไปบังคับพวกเขาให้เกิดการศรัทธา
(23) แต่พวกเขาที่ผินหลังให้การศรัทธา และปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์
(24) ดังนั้น อัลลอฮ์จะทรงลงโทษเขาในวันกิยามะฮ์ซึ่งการลงโทษอันมหันต์ ด้วยการนำเขาเข้าไปอยู่ในนรกญะฮันนัมตลอดกาล
(25) แท้จริง ยังเราผู้เดียวเท่านั้นคือการกลับมาของพวกเขาภายหลังจากการตายไปของพวกเขา
(26) แล้วก็แท้จริงหน้าที่ของเราเพียงผู้เดียวเท่านั้นคือการชำระสอบสวนการงานของพวกเขา และสิ่งนี้ (การชำระสอบสวน) มิใช่เป็นหน้าที่ของเจ้าหรือผู้อื่นนอกจากเจ้า